ฝาท่อเหล็กหล่อเทา FC กับ ฝาท่อเหล็กหล่อเหนียว FCD คุณสมบัติต่างกันอย่างไร

ฝาท่อเหล็กหล่อเทา FC กับ ฝาท่อเหล็กหล่อเหนียว FCD คุณสมบัติต่างกันอย่างไร

ความสำคัญของการเลือกใช้ฝาท่อเหล็กนั้น โดยทั่วไปแล้วผู้ซื้อมักจะคำนึงถึงความแข็งแรง การรองรับน้ำหนัก และความทนทานต่อทั้งสิ่งกระทบและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการนำไปใช้ในลักษณะงานที่ต้องการลดภาระการตรวจสอบสภาพ หรือตรวจเช็คบำรุง

แต่แน่นอนว่าจุดประสงค์ของการใช้งานนั้น ย่อมที่จะมีข้อแตกต่างออกไป ดังนั้นการเลือกใช้ฝาท่อแบบวัสดุเหล็กหล่อนั้นก็มีการแยกประเภทด้วยเช่นกัน  ซึ่งรูปแบบที่นิยมโดยทั่วไปในท้องตลาดนั้นจะประกอบไปด้วย ฝาท่อเหล็กหล่อ FC และฝาท่อเหล็กหล่อเหนียว FCD นั่นเอง ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้

ฝาท่อเหล็กหล่อเทา FC

เป็นฝาท่อที่หล่อขึ้นมาจากเหล็กหล่อ FC (Gray Cast Iron) ซึ่งได้รับความนิยมนำมาขึ้นรูปโลหะเพื่อการผลิต ฝาท่อ โดยเฉพาะ โดยเหล็กชนิดนี้จัดเป็น เหล็กหล่อ ที่เหมาะแก่การนำไปใช้งานในเรื่องพื้นฐานทั่วไป ซึ่งชิ้นงานจะได้รับคุณสมบัติความแข็งแกร่งที่เหล็กหล่อควรมี จัดเป็นรูปแบบเหล็กหล่อที่มีความแข็งแรงผ่านเกณท์มาตรฐาน ได้รับความนิยมสำหรับใช้ในการผลิตวัสดุอุปกรณ์ได้หลากหลายชนิด

อย่างไรก็ตามเหล็กหล่อ FC จะแบ่งออกได้เป็นหลายเกรด ได้แก่ JIS, FC 15, FC 20, FC 25, FC 30  โดยเหล็กหล่อเทาจะเป็นเหล็กหล่อชนิดที่มี กราไฟล์ อยู่ในโครงสร้างระดับไมโคร มีการแตกหักในระดับไมโครของเนื้อเหล็กจากการจับตัวของคาร์บอน ทำให้เหล็กมีสีเทา

นอกจากนี้คุณสมบัติของเหล็กหล่อเทา ในกระบวนการผลิตยังตกแต่งขึ้นรูปได้ง่าย มีจุดหลอมเหลวต่ำ อีกทั้งยังมีอัตราการขยายตัวที่น้อย ทำให้เหมาะแก่การนำไปผลิตอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนรูป หรือขยายตัว โดยเฉพาะการใช้งานฝาท่อ ซึ่งหากเหล็กเกิดการเปลี่ยนรูปขยายตัว ก็อาจทำให้เปิดปิดได้ยากขึ้น หรือสร้างผลกระทบให้กับกรอบคอนกรีต หรือเกิดการโก่งตัว

อีกทั้งเหล็กหล่อเทายังมีคุณสมบัติที่ทนต่อแรงอัดและรับแรงสั่น หรือ Damping Capacity ได้ดี ซึ่งก็ยิ่งเหมาะแก่การเผชิญกับแรงสั่นสะเทือน จากการติดตั้งในพื้นที่สัญจร ที่เกิดแรงสั่นอยู่เป็นประจำได้

 

ฝาท่อเหล็กหล่อเหนียว FCD

เป็นฝาท่อที่หล่อขึ้นมาจากเหล็กหล่อเหนียว FCD ( Ferrous Casting Ductile / Spheroidal graphite iron castings ) เหล็กชนิดนี้จะมีความแข็งแรงที่สูงขึ้น มีความเหนียวไม่แตกหักง่าย อีกทั้งยังทนทานต่อ อุณหภูมิได้มากขึ้น เมื่อทำการขึ้นรูป จะมีลักษณะพิเศษคือผิวเงาวาว ให้ความแกร่งมีความหนาแน่นของเหล็กมากกว่า และมีคาร์บอนที่น้อยกว่าเหล็กหล่อธรรมดาโดยเหล็กหล่อเหนียวจะแบ่งออกได้เป็นเกรดต่างๆ ประกอบไปด้วยเกรด JIS FCD 40, FCD 45

ซึ่งฝาท่อชนิดนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการติดตั้งในบริเวณที่มีโอกาสเกิดการรับแรง แบกน้ำหนักที่มากขึ้นเป็นพิเศษ หรือเจอกับแรงกระทบ โดยที่เหล็กหล่อเหนียวหากต้องเจอกับแรงที่สูงเกินข้อจำกัด จะไม่แตกหักง่ายแต่จะเกิดลักษณะของการบิดยุบอันเป็นรูปแบบของความเหนียวนั่นเอง